10 ข้อที่คุณไม่ควรรู้สึกผิดและกล่าวคำว่า “ขอโทษ" | Foofeel - FF Incredible World แชร์เรื่องราวดีๆบนโลก ที่เหลือเชื่อ แปลกประหลาด และเจ๋งสุดๆ

10 ข้อที่คุณไม่ควรรู้สึกผิดและกล่าวคำว่า “ขอโทษ"

Share

คำว่า “ขอโทษ”ไม่ได้แปลว่าคุณถูกหรือผิด แต่มันคือการมองเห็นคุณค่าของกันและกันมากกว่าเห็นแก่ตนเอง


PHOTO : sodahead.com

ถ้าคุณซื่อสัตย์ต่อตนเองแล้วคุณจะรู้ดีว่า ไม่มีใครที่จะเห็นด้วยไปกับการตัดสินใจของคุณไปซะทุกอย่าง 
พวกเขาเหล่านั้นจะตัดสินคุณไปต่างๆนานา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาไม่เห็นด้วยกับคุณ

มันแย่นะกับการที่ต้องมากล่าวคำขอโทษในสิ่งที่เราไม่ผิดแล้วยังทำให้เรารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองอีกด้วย มิหนำซ้ำยังดูเหมือนว่าเสแสร้งกับคนอื่น



คุณไม่ควรที่จะกล่าวคำว่า ขอโทษ กับเรื่องทั้ง 10 ข้อต่อไปนี้


1. อดีตของคุณ

เคยมีเพื่อน สมาชิกในครอบครัวหรือญาติพี่น้องที่คอยสรรหาแต่เรื่องแย่ๆของคุณที่เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้วมาเล่าแล้วเล่าอีกไหม พวกเขาเพียงแค่ทำเพื่อเอามาจัดการกับคุณเท่านั้นเอง

อดีตมันก็คืออดีตไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

ไม่ว่าใครก็เคยทำความผิด เราทุกคนล้วนแล้วแต่ก็เคยเป็นวัยรุ่นที่โง่เขลากันทั้งนั้น ตราบใดที่มันเคยเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตคุณ จงให้อภัยมันซะ และไม่ควรที่จะต้องมารู้สึกเศร้าโศกเสียใจกับเรื่องเดิมๆอีก




2. รสนิยมทางเพศของคุณ

ไม่ว่าคุณจะชอบ หญิง หรือ ชายหรือ เปลี่ยนคู่นอนทุกๆคืน บางคนอาจไม่ต้องการมีคู่ครองเลยก็เป็นได้

ไม่ว่ารสนิยมความชอบจะเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วก็คือตัวคุณ ยกตัวอย่างเช่นเพื่อนชอบสีฟ้าแต่คุณชอบสีเขียว ก็ไม่ควรรู้สึกผิดกับเพื่อนในสิ่งที่คุณได้ไม่ชอบ

ความจริงคือ พวกเขาไม่ควรใส่ใจกับสิ่งที่มันไม่ใช่ธุระของพวกเขา แต่อย่างไรแล้วก็ตาม หากความชอบของคุณมันทวนกระแส ก็อาจจะเป็นที่จับจ้องมองได้นะ ตราบใดที่การกระทำของคุณนั้นเป็นที่ยอมรับของสังคมอยู่ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรมันก็ควรเก็บไว้ที่คุณ แต่หากวันใดวันหนึ่งเรื่องส่วนตัวของคุณกลับฉาวขึ้นมา คุณก็ไม่ควรที่จะกล่าวคำขอโทษหรือรู้สึกผิดแต่อย่างใด เพราะนั่นมันคือเรื่องของคุณ ใครหน้าไหนห้ามยุ่ง




3. เชื่อมั่นในตัวเองในสิ่งที่คุณคิดว่ามันถูกต้องแล้วสำหรับคุณ

เคยมีใครมาทำให้คุณรู้สึกผิดไหมเมื่อคุณแสดงความคิดเห็นและมั่นใจว่าถูก โชคไม่เคยเข้าข้างเลย แม้กระทั่ง พ่อแม่ เพื่อนๆหรือคนแปลกหน้าล้วนแล้วแต่ถนัดในเรื่องที่ทำให้เรารู้สึกผิดยู่แล้ว หากความเชื่อของเรามันไม่สอดคล้องกับพวกเขา

แทนที่จะเลือกเดินหันหลังกลับไปด้วยการกล่าวคำว่าขอโทษ แต่ลองแน่วแน่กับความคิดของตัวเองดู และสิ่งที่เรายืนกรานอยู่นี่แหละคือพลังอันยิ่งใหญ่ที่จะช่วยเพิ่มพูนความมั่นใจของเรา




4. ให้ความคิดเห็นอย่างซื่อตรง

อย่างเช่น ถ้าเพื่อนถามว่า ”ผมของฉันดูเป็นยังไงบ้างน่าเกลียดไหม” ก็ให้บอกไปอย่างซื่อตรงตามความคิดเห็นของเราว่า น่าเกลียดหรือไม่น่าเกลียดยังไง คุณอาจทำร้ายความรู้สึกของเขาหากคำตอบของคุณ คือ “ผมของเธอดูน่าเกลียดมาก”

ฟังดูใจร้ายไปไหม?

สัญชาติญาณในแวบแรกของคุณอาจบอกให้ปลอบโยนเพื่อด้วยคำกล่าวที่ว่า ”ขอโทษนะผมเธอไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้น” แต่อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรทำแบบนั้นเพราะในเมื่อเขาถามคุณเพื่อต้องการคำตอบที่แท้จริง

สมาคมทางด้านจิตวิทยาของอมเมริกา (American Psychological Association) ทดสอบแล้วว่าความซื่อสัตย์ส่งผลให้มีสุขภาพที่ดี คุณไม่ควรกลับความคิดเห็นด้วยการกล่าวคำขอโทษแต่อย่างใด เพราะมันจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคุณดีขึ้นหากคุณยังยืนยันความคิดเห็นที่ออกจากใจจริง




5. เมื่อรู้สึกอย่างไรก็ให้แสดงออกมาอย่างนั้น

ยังคงมีคนคอยมาจ้องจับผิดคุณว่าเป็นเด็กขี้แงน้ำตาซึมง่ายอยู่ไหม? หรือแสดงท่าทางสนุกสนานและมีความสุขมากเกินไป?

แต่การที่ได้ปลดปล่อยด้วยการแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของคุณออกมานั้นส่งผลให้มีสุขภาพจิตดี ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องแอบซ่อนหรือปิดบังมันไว้ แม้กระทั่งจากบทความ expressing your emotions ได้แสดงให้เห็นว่าการแสดงความรู้สึกออกมาทางร่างกายของเรานั้น ไม่ว่าจะเป็นการหัวเราะ ร้องไห้ ยิ้ม ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเราดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่อายเลยแม้แต่นิดเดียว




6. การลบเพื่อนใน Facebook

ความจริงคือ ไม่ใช่เพื่อนทั้งหมดที่จะเป็นเพื่อนแท้ของคุณใน Facebook การลบเพื่อนที่คอยมาก่อกวน รบกวนให้รำคาญใจออกไป ยังต้องมาพิจารณาไตร่ตรองอีกไหมว่าตัวเองผิด? หรือต้องรู้สึกแย่ที่ต้องลบคนประเภทนี้ออกจากเฟส? คงไม่มั้ง



7. ใช้เวลาอยู่กับคนที่สามารถทำให้คุณมีความสุขได้

คุณเคยมีเพื่อน หรือ พ่อกับแม่ที่ไม่เคยพอใจกับคนที่คุณกำลังคบอยู่ไหม? เค้าไม่ได้เพียงแค่พูดล้อเล่นเกี่ยวกับเพื่อนหรือคนพิเศษสำหรับของคุณ แต่พยายามที่จะพูดดูถูกเหยียดหยามด้วย
แต่มันไม่ใช่การตัดสินใจของพวกเขาหนิ

แล้วคนที่เราคบอยู่นั้นทำให้คุณมีความสุขไหม? คุณรู้สึกสนุกสนานที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยไหม?

ถ้าใช่ คุณไม่ควรที่จะต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำและเป็นความสุขของคุณ รวมไปถึงไม่ว่าคุณจะไปกับเค้าคนนั้นโดยไม่มีใครเห็นด้วยก็ตาม




8. ให้อภัยซึ่งกันและกัน

คุณเคยให้อภัยใครในขณะที่เพื่อนก็แปลกใจว่า ให้อภัยมันได้ไง? พวกเขาต้องการจะลงโทษคนร้ายผู้นั้นในขณะที่คุณไม่ได้ถือสาอะไร “การให้อภัย” เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยพัฒนาจิตใจของเราให้ดีขึ้น ดังนั้น มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะสำหรับการยอมรับคนอื่นด้วยการให้อภัย



9. เป็นตัวของตัวเอง

คุณเป็นบุคคลที่แปลกประหลาดหรือเปล่า? หรือว่าเป็นพวกเด็กเรียน? บางทีอาจเป็นคนค่อนข้างเป็นตัวของตนเองสูง?

แล้วคุณชอบตัวเองในสิ่งที่เป็นอยู่ไหม?

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องนับถือความคิดและสิ่งที่คุณทำให้ได้หากไม่มีใครปรับตัวเข้าหาคุณได้ นั่นมันก็คือปัญหาของพวกเขา แต่ตราบใดที่คุณชอบในสิ่งที่คุณเป็นอยู่ ก็ไม่ควรที่จะรู้สึกผิดในการกระทำที่เป็นตัวของตัวเอง




10. ไล่ล่าตามหาความฝัน

เป็นเรื่องที่น่าเศร้ากับผู้คนจำนวนมากที่คอยกังวลเรื่องความฝันของตัวเอง คุณเคยมีความคิดที่อยากจะประสบความสำเร็จในการเป็นนักเขียนไหม? หรือว่านักเต้นที่มีชื่อเสียง? หรือบางครั้งอาจจะมีความฝันง่ายๆคือ ซักวันหนึ่งต้องมีลูก มีครอบครัว

ไม่ว่าจะอยากเป็นอะไรทุกอย่างจะต้องมีการจัดเตรียมและวางแผน แต่โชคไม่ได้เข้าข้างเสมอไปเพราะในขณะเดียวกัน ผู้คนบางกลุ่มเค้ากำลังจับจ้องคอยตามวิภาควิจารณ์ความใฝ่ฝันของคุณอยู่

เคยเผชิญปัญหากับพ่อแม่ชอบตำหนิงานที่เราเลือกทำไหม? หรือเพื่อนหัวเราะเยอะกับความพยายามของคุณเพื่อทำให้ความฝันเป็นจริง?

อย่าแม้แต่คิดที่จะกล่าวคำว่า “เสียใจ” หรือคิดไปว่าตนเองผิดตามคำวิภาควิจารณ์จากผู้อื่น จงมุ่งหน้าเดินทางตามสัญชาติญาณตนเอง เพื่อทำให้ความใฝ่ฝันของคุณนั้นเป็นจริงให้ได้

[Source:Goweloveit]
Share on Google Plus
    Facebook Comment
    Blogger Comment

0 ความคิดเห็น :